
โซเชียลอาลัย “บุญรอด” หนุ่มพิการขายลอตเตอรี่ ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต
ปิดตำนานผู้พิการสู้ชีวิต โซเชียลร่วมแสดงความระลึกถึง “นายรอด จงสืบโชค” หนุ่มพิการขายลอตเตอรี่ ได้รับอุบัติเหตุเสียชีวิตแล้ว
จากกรณี เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2565 ภาพวงจรปิดบันทึกภาพขณะเกิดอุบัติเหตุ ชายพิการ กำลังนั่งรถวีลแชร์ขายลอตเตอรี่ ถูกรถยนต์กระบะทะเบียน จ.จันทบุรี พุ่งเข้าชนเสียชีวิตคาที่ โดยเหตุเกิดรอบๆสี่แยกเมืองจันท์ ต.ตลาด (สายมุ่งหน้าตลาดพลอย) อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ขณะผู้ตายกำลังรอข้ามแยกตรงทางม้าลาย
ถัดมา ทราบดีว่าเป็นชายพิการคนมีชื่อเสียงกล่าว คือ นายรอด จงสืบโชค อายุ 36 ปี หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “บุญรอด” มีอาชีพขายลอตเตอรี่อยู่ในจังหวัดจันทบุรีมานานยาวนานหลายปี จนเป็นที่รู้จักของชาวบ้านกันเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเฟซบุ๊กของ นายรอด จงสืบโชค พบว่ามีผู้เข้ามาโพสต์อาลัย และแสดงความเสียใจต่อการจากไปของ “บุญรอด” กันเป็นจำนวนมาก.
สลด สาวขับชน หนุ่มพิการขายลอตเตอรี่ ดับคาวีลแชร์ ร่ำไห้ขอโทษศพ
ชายพิการนั่งวีลแชร์ขายลอตเตอรี่ที่จันทบุรี ประชาชนรู้จักในชื่อ “นายบุญรอด” ซวย ขณะกำลังคอยผ่านทางตรงสี่แยก ถูกรถกระบะขับโดยสาววัย 31 ปี พุ่งเข้าชนเสียชีวิตคาที่ คนชนใจหายร้องไห้เสียใจ กราบขอโทษศพ เวลา 14.04 น. วันที่ 10 พ.ย. ภาพวงจรปิดบันทึกภาพขณะเกิดอุบัติเหตุชายพิการ กำลังนั่งรถวีลแชร์ขายลอตเตอรี่ ถูกรถยนต์กระบะทะเบียน จ.จันทบุรี พุ่งเข้าชนเสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดรอบๆสี่แยกเมืองจันท์ ต.ตลาด (สายมุ่งหน้าตลาดพลอย) อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ขณะผู้ตายกำลังคอยผ่านแยกตรงทางม้าลาย
สำหรับผู้ตาย ทราบดีว่าเป็นผู้พิการ มีอาชีพขายลอตเตอรี่อยู่ในจังหวัดจันทบุรีมานานยาวนานหลายปีจนมีผู้รู้จักและผู้ติดตาม Facebook เป็นปริมาณมาก ชื่อนายรอด จงสืบโชค อายุ 36 ปี ชาวบ้านเรียกว่า บุญรอด
ส่วนคนขับรถยนต์คือนางสาวกัลสุดา เทือกดอนหัน อายุ 31 ปี บ้านเกิดเมืองนอนอยู่ อำเภอแวงใหญ่ จ.ขอนแก่น หลังจากเกิดเหตุคนขับได้เสียใจนั่งร้องไห้ฟูมฟาย ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจให้กู้ภัยนำศพไปส่งโรงพยาบาลเพื่อชันสูตร คนขับรถได้เข้ามากราบศพขอโทษผู้ตาย บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าใจเสียใจ
ชายพิการนั่งวีลแชร์ขายลอตเตอรี่ถูกรถกระบะชนเสียชีวิตกึ่งกลางตัวเมืองจันท์ เวลา 14:04 น. ภาพวงจรปิดบันทึกภาพขณะเกิดอุบัติเหตุชายพิการขายลอตเตอรี่ กำลังเข็นขายลอตเตอรี่ ถูกรถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน บย 6795 จันทบุรี พรุ่งชนเสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดรอบๆสี่แยกเมืองจันท์ ต.ตลาด (สายมุ่งหน้าตลาดพลอย) อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี
โดยประชาชนเรียกว่าบุญรอด รอบๆที่เกิดเหตุคนขับขี่รถยนต์นั่งเสียใจร้องไห้ฟูมฟาย ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้กู้ภัยนำศพไปส่งโรงพยาบาลเพื่อชันสูตรผู้ก่อเรื่องเข้ามากราบขอโทษผู้ตาย บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าใจเสียใจ
สาวขับกระบะเสียหลักชนวีลแชร์ หนุ่มพิการขายลอตเตอรี่เสียชีวิตคาที่ เพื่อนเผยหนุ่มพิการกำลังจะไปสู่ขอแฟนสาวแต่งงานในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
วันที่ 10 พ.ย. 65 พ.ต.ต.ชาญฤทธิ์ สุขเจริญ สว.สอบสวน สภ.เมืองจันทบุรี รับแจ้ง เกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะ เฉี่ยวชนรถวีลแชร์คนพิการ มีผู้ตาย 1 ราย บนถนนเบญจมราชูทิศ ช่วงรอบๆสี่แยกเมืองจันท์ ซอยถนนขวาง ต.วัดใหม่ อำเภอเมือง จ.จันทบุรี จึงผสาน แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลพระปกเกล้าฯ กำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัย สมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถาน จันทบุรี ช่วงเวลาเดียวกัน พันตำรวจเอกเตชิต กุลกนิษฐรากร ผู้กำกับการ สภ.เมืองจันทบุรี พร้อมทั้ง นายกิจฐพร โชติสุวรรณ์ นายกเทศมนตรีเมืองจันทบุรี ร่วมตรวจสอบด้วย
ที่เกิดเหตุเจอผู้ตายนอนคว่ำหน้าอยู่บนฟุตบาธข้างแบริเออร์คอนกรีต ชันสูตรเบื้องต้นเจอมีบาดแผลรอบๆท้อง และต้นขาฉีกขาด ใกล้กันเจอรถเข็นวีลแชร์สีแดงของผู้ตาย ถูกชนพังเสียหาย ห่างกันนิดหน่อย ยังเจอรถกระบะ นิสสัน นาวาร่า สีดำ จอดอยู่ริมถนน สภาพข้างหน้ามีร่องรอยเฉี่ยวชนพังเสียหาย ล้อหน้าด้านซ้ายแตกและหลุดออกมากองพับพื้นถนน โดยมี สาว อายุ 31 ปี เป็นผู้ขับ อยู่ในอาการตกใจร้องไห้ตลอดเวลา
จากการสืบสวนเบื้องต้น ทราบชื่อผู้ตายคือ นายรอด ต้องสืบโชค อายุ 36 ปี ส่วนสลากกินแบ่งรัฐบาลจำนวนมากอยู่ในแผง ตำรวจได้เก็บไว้รักษาไว้ให้กับญาติ ขณะที่คนขับรถกระบะให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับไปเอาอุปกรณ์ฌาปนกิจศพที่วัดเขต ให้กับแฟนหนุ่มซึ่งเป็นสัปเหร่อที่วัดป่าคลองกุ้ง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ได้ขับรถเข้าช่องเดินรถฝั่งซ้าย ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันที่มี นายรอด ผู้ขายลอตเตอรี่เข็นสวนมากำลังจะเลี้ยวเข้าซอย จึงพุ่งเข้าชนเข้าอย่างแรง
ขณะที่คนรู้จักกันกับผู้ตาย ให้ข้อมูลว่า นายรอด จะเข้าไปขายลอตเตอรี่ ในวัดเขตนาบุญญารามเป็นประจำ และเริ่มจะมีฤกษ์ดีเตรียมจะไปสู่ขอแฟนสาวที่คบหากันอยู่แต่งงาน ในไม่อีกกี่วันข้างหน้านี้ แต่มาได้รับอุบัติเหตุเสียชีวิตก่อน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในระหว่างการตรวจดูภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อนำมาประมวลกับพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ เพื่อสรุปต้นสายปลายเหตุที่ชัดเจน สำหรับเพื่อการสรุปสำนวนคดี เพื่อฟ้องร้องตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป